การลงทุนในหุ้นแบบ VI คืออะไร?

1 ก.ค. 2560 15.24 น. | 2,021

                วันนี้มาทำความรู้จักการลงทุนในหุ้นแบบ VI ที่ช่วยสร้างความมั่งคั่งร่ำรวยให้กับนักธุรกิจและนักลงทุนหลายคนในไทย ยกตัวอย่างนักลงทุนชื่อดัง ดร. นิเวศน์ เหมวชิรวรากร นักลงทุนและนักเขียนชื่อดังซึ่งใช้แนวทางนี้ในการลงทุนเรื่อยมาจนประสบความสำเร็จเป็นนักลงทุนที่ทำกำไรได้หลักล้านแบบรายวัน ซึ่งแนวทางนี้มุ่งเน้นการศึกษาข้อมูลของกิจการเพื่อประกอบการตัดสินใจเป็นหลักมากกว่าการเฝ้าดูกราฟของตลาดหลักทรัพย์

ภาพจาก Freepik.com

 

                VI ย่อมาจาก Value Investment หรือการลงทุนโดยมุ่งเน้นไปที่การพิจาณาถึงคุณค่าของสินทรัพย์นั้น ซึ่งดร. นิเวศน์ ได้สรุปจากหนังสือของเบน เกรแฮม 2 เล่มคือ “Security Analysis” และ Intelligent Investor” โดยได้วิเคราะห์ออกมาจนได้หลักการลงทุน 4 หัวข้อใหญ่ ดังนี้

 

1. คิดแบบเจ้าของธุรกิจ มีนักลงทุนหลายคนที่ลงทุนโดยเก็บข้อมูลในการตัดสินใจจากราคาตลาดและรายงานจากตลาดหลักทรัพย์ สำหรับนักลงทุนแบบ VI ไม่เหมือนกัน การลงทุนแนวนี้จะมุ่งเน้นไปที่การศึกษามูลค่าที่แท้จริงของหุ้นโดยดูจากผลประกอบการ พิจารณาถึงความเป็นไปได้ ความนิยมของผลิตภัณฑ์ของกิจการนั้น ๆ ยอดขาย ผลกำไร ฐานะการเงินของกิจการ แนวโน้มการเติบโตของธุรกิจ และผู้บริหารมีความน่าเชื่อถือหรือไม่ โดยมีความคิดพื้นฐานว่าการลงทุนนี้คือการนำเงินไปร่วมหุ้นทำธุรกิจโดยเล็งเห็นว่าเป็นธุรกิจที่มีโอกาสเติบโตและทำกำไรได้สูงนั่นเอง

ภาพจาก Freepik.com

 

2. มองที่มูลค่าที่แท้จริง การลงทุนในหุ้นแบบ VI จะให้ความสำคัญจากมูลค่าหุ้นที่แท้จริงมากกว่าราคาหุ้นตามกลไกตลาด รวมถึงพิจารณาถึงมูลค่าที่จะได้รับในอนาคต ซึ่งการคิดคำนวณมูลค่าหุ้นที่แท้จริงนั้นมีทฤษฏีค่อนข้างยุ่งยากและนักลงทุนแต่ละคนก็มีวิธีคิดที่แตกต่างกันไปเพราะนักลงทุนมีวิธีตีมูลค่าของสินทรัพย์และให้น้ำหนักสินทรัพย์นั้น ๆ แตกต่างกันไปถ้าใครอยากลงทุนแนวนี้ก็ต้องหาทางของตัวเองให้เจอนะ

 

3. ช่องว่างของมูลค่าที่แท้จริงและราคาตลาด ส่วนใหญ่แล้วนักลงทุนแบบ VI จะเลือกลงทุนในสินทรัพย์ที่มีราคาตลาดต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงที่คำนวณได้ซึ่งช่องว่างนี้ยิ่งมากยิ่งดีเพราะแสดงว่าสินทรัพย์นี้ยังสามารถเติบโตทวีมูลค่าได้อีกมากจนกว่าจะเท่ากับมูลค่าหุ้นที่แท้จริงและสามารถสร้างกำไรมหาศาลให้แก่นักลงทุนโดยซื้อสินทรัพย์ในราคาที่ต่ำกว่ามูลค่าที่แท้จริงและถือหุ้นนี้ไว้จนถึงจุดที่คาดว่าทำกำไรสูงสุดแล้วขาย

ภาพจาก Freepik.com

 

4. ใช้ตลาดหุ้นให้เป็น อย่าให้ตลาดชักนำเรา จริงอยู่ตลาดอาจกำหนดราคาธุรกิจหรือหุ้นต่าง ๆ ในตลาดได้ แต่ก็มีบางครั้งกำหนดราคาตลาดของหุ้นต่ำกว่าราคามูลค่าที่แท้จริงของหุ้น เมื่อคุณเห็นโอกาสอย่างนี้แล้วก็เป็นหน้าที่ของคุณที่จะฉวยโอกาสนั้นไว้เพื่อทำกำไร

 

การลงทุนแบบ VI นั้นจะเน้นการถือหุ้นระยะยาวเพื่อรอเวลาดังนั้น เวลา คืออีกหนึ่งปัจจัยที่คุณต้องนำมาพิจารณาร่วมด้วยในการตัดสินใจลงทุนกับกิจการที่สนใจ นอกจากนี้การลงทุนแบบ VI นั้นเรียกว่ามีความเสี่ยงค่อนข้างมากกว่าการลงทุนในหุ้นที่รู้ว่าอย่างไรก็ได้กำไรแน่ ๆ อยู่แล้วดังนั้นควรศึกษาข้อมูลให้ดีก่อนตัดสินใจลงทุนนะ