4 เหตุผลที่ฐานะการเงินมีอิทธิพลในความสัมพันธ์และความรัก

16 ก.ค. 2560 15.56 น. | 935

เรามักพบเห็นเรื่องราวเหล่านี้ทั้งในนิยายที่ถูกเขียนขึ้นเมื่อสักร้อยปีก่อน ในภาพยนตร์และละคร รวมถึงในชีวิตจริงที่กล่าวถึงความรักที่ไปด้วยกันไม่ได้เพราะความแตกต่างของฐานะการเงิน อันดับแรกคงเป็นเพราะความรักความรู้สึกเป็นเรื่องที่แสนจะนามธรรมจับต้องไม่ได้เป็นเรื่องของอารมณ์และความนึกคิดล้วน ๆ ส่วนเงินเรื่องของรูปธรรมการได้มาการใช้ไป วัตถุและของมีค่า เพราะอะไรการเงินถึงมีอิทธิพลต่อความรักของคนสองคน ประเด็นที่ถูกพูดถึงอย่างมากคือความรักและฐานะควรจะสัมพันธ์กันหรือไม่ มีเหตุผลอะไรที่อาจทำให้คุณไปด้วยกันไม่ได้บ้างมาดูกัน

ภาพจาก Freepik.com

 

ความห่วงใยของผู้เป็นบุพการี

            จุดเริ่มต้นของความรักเกิดจากคนสองคนที่ได้ใช้เวลาร่วมกันอย่างมีความสุข จนเมื่อเริ่มอยากใช้เวลาที่เหลือทั้งชีวิตร่วมกันเป็นความสัมพันธ์ที่เข้าสู่ขอบเขตของความจริงจังจากคนรักกลายเป็นครอบครัว หลายคนพบปัญหาพ่อแม่ทัดทานและไม่เห็นด้วยที่จะคบหากับคนรักที่มีฐานะต่างกันมากเกินไป แน่นอนว่าพ่อแม่บางคนอาจแค่ไม่ถูกชะตาว่าที่ลูกเขยว่าที่ลูกสะใภ้หรืออาจรู้จักกันเพียงผิวเผินทำให้อยากทัดทานลูกของตนไว้ก่อนจะพบกับปัญหาในภายภาคหน้า เพราะถึงแม้พ่อแม่อาจไม่ได้รู้จักคนรักของคุณอย่างที่คุณรู้จักมาก่อน แต่ต้องยอมรับว่าท่านพบผ่านอะไรมามากมายกว่าเรานัก เรียกว่าอาบน้ำร้อนมาก่อนก็ว่าได้ เป็นไปได้ว่าท่านอาจมองเห็นจุดเล็ก ๆ ที่คุณมองข้ามไปซึ่งอาจกลายเป็นปัญหาใหญ่ในอนาคต ให้ลองเปิดใจแล้วคุยกับท่านดูว่าเรื่องที่ท่านห่วงใยนั้นแก้ไขได้หรือไม่ หรือคุณควรจะรับฟังท่านและคิดดูใหม่อีกครั้งดี?

 

การใช้ชีวิตที่แตกต่าง

            แน่นอนว่าเมื่อมีฐานะและพื้นฐานครอบครัวที่แตกต่างกัน วิถีชีวิตย่อมแตกต่างกันรวมไปถึงนิสัยการใช้เงินด้วย คนหนึ่งอาจใช้โดยไม่ได้วางแผนและคนหนึ่งอาจคิดถี่ถ้วนถึงขั้นตระหนี่ก่อนที่จะตัดสินใจใช้จ่ายอะไรสักอย่าง ซึ่งเมื่อคนสองคนมาอยู่ร่วมกันใช้ชีวิตร่วมกันการตัดสินใจว่าจะซื้อข้าวของหรือเฟอร์นิเจอร์เข้าบ้านต้องทำร่วมกันและหากเป็นคนที่มีนิสัยการใช้เงินต่างกันมีทะเลาะกันแน่นอน

ภาพจาก Freepik.com

 

แผนการในอนาคตที่ไม่เหมือนกัน

                เมื่อคุณตัดสินใจว่าจะใช้ชีวิตร่วมกับใครสักคนแล้ว แผนการในอนาคตของคุณต้องเปลี่ยนไปแน่นอน จะมีคนรักของคุณและอาจมีลูกน้อยของคุณเข้ามาร่วมด้วย แต่หากแผนการที่คุณวางไว้สำหรับคนทั้งคู่แตกต่างกันคนหนึ่งอยากอดออมทุกอย่างไว้ใช้ในอนาคต อีกคนหนึ่งอยากใช้เงินเสียวันนี้การเก็บเงินไว้เป็นเรื่องอนาคต เมื่อความคิดเห็นไม่ตรงกันแบบนี้จะเดินทางเดียวกันได้มั้ยล่ะคุณ

ภาพจาก Freepik.com

 

ทัศนคติด้านการเงินที่ไม่เหมือนกัน

            เอาตรง ๆ พูดแบบไม่โลกสวยเลยบางคนที่บ้านมีกิจการและมีหุ้นส่วนในกิจการนั้นแค่ได้รับเงินปันผลจากกิจการก็สามารถใช้ชีวิตสุขสบายโดยไม่ต้องทำงานสักนิด กับบางคนที่ต้องเหน็ดเหนื่อยหาเช้ากินค่ำกว่าจะได้เงินสักก้อนมาใช้จ่าย เมื่อเห็นคนรักใช้เงินมือเติบไม่เหลือเก็บเพราะคาดว่าเดี๋ยวก็ได้เงินมาง่าย ๆ ก็น่าจะทำให้หงุดหงิดใจได้ไม่น้อยจริงมั้ย

                พูดกันโดยรวมแล้วหากมีฐานะการเงินที่แตกต่างกันก็ทำให้มีพื้นฐานความคิด การเลี้ยงดูและนิสัยการจับจ่ายที่แตกต่างกันซึ่งจุดนี้ต้องยอมรับว่ามันนำมาซึ่งปัญหาจริง ๆ ดังนั้นเมื่อตัดสินใจจะใช้ชีวิตร่วมกันแล้วการจูนทัศนคติทั้งด้านการใช้ชีวิตและการเงินให้เหมือนกันนั้น สำคัญมากจริง ๆ ถ้าจูนกันไม่ได้ก็ต้องบ้ายบายอย่างเดียวเชื่อเถอะคุณ