เมื่อลูกค้าตัดสินใจซื้อนายหน้าอสังหาริมทรัพย์ควรทำอย่างไรต่อไป?

30 พ.ค. 2560 16.26 น. | 3,443

           หลังจากผ่านขั้นตอนการเรียนรู้ข้อมูลพื้นฐานในการเป็นนายหน้าอสังหาริมทรัพย์แล้ว ไม่ว่าจะเป็นการติดตามข้อมูลข่าวสารของอสังหาริมทรัพย์ในทำเลที่สนใจ, ราคาตลาดและแนวโน้มในการทำราคาเพื่อดึงดูดผู้ซื้อรวมถึงการศึกษาช่องทางในการทำการตลาดเพื่อให้ผู้ซื้อสามารถเข้าถึงข้อมูลของอสังหาริมทรัพย์ที่คุณเป็นผู้ดูแลในการขายได้มากที่สุดแล้ว จนในที่สุดเมื่อคุณสามารถชักจูงลูกค้าให้ตัดสินใจซื้อทรัพย์ที่คุณเป็นนายหน้าได้แล้ว  ขั้นตอนต่อไปคือการเตรียมเอกสารเพื่อทำการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งนายหน้าควรศึกษาเพื่ออำนวยความสะดวกให้กับผู้ซื้อและสามารถปิดงานเพื่อรับค่านายหน้าได้อย่างรวดเร็ว

ภาพจาก Freepik.com

 

  •  การเตรียมเอกสารสำหรับยื่นขอเงินกู้กับสถาบันการเงิน หลังจากพาลูกค้าไปดูทรัพย์ สอบถามข้อมูลจนเป็นที่พึงใจและคุณสามารถโน้มน้าวให้ผู้ที่สนใจมาดูทรัพย์นั้นตัดสินใจซื้อได้ในที่สุด ขั้นตอนถัดไปคือการเตรียมเอกสารเพื่อยื่นกู้กับธนาคารกรณีที่ผู้ซื้อกู้เพื่อซื้อซึ่งได้แก่ สำเนาบัตรประชาชน สำเนาทะเบียนบ้าน ใบทะเบียนสมรสกรณีที่ผู้ซื้อสมรสแล้ว รายการเดินบัญชีธนาคารย้อนหลัง 6 เดือน สลิปเงินเดือนหรือหนังสือรับรองเงินเดือนของผู้ซื้อ ทางฝั่งนายหน้าเองก็ต้องเตรียมสำเนาโฉนดหน้าหลัง ใบอนุญาติก่อสร้าง(ถ้ามี) และสัญญาจะซื้อจะขายที่ทำไว้เพื่อนำไปรวมกับเอกสารของผู้ซื้อและส่งให้ธนาคารประเมิน
  • เงิมมัดจำและค่าธรรมเนียมในการประเมินราคาทรัพย์ หากในสัญญาจะซื้อจะขายที่ได้ทำการตกลงกับเจ้าของทรัพย์นั้นระบุว่าต้องมีการวางมัดจำคุณต้องแจ้งผู้ซื้อให้เตรียมเงินมัดจำและในการยื่นกู้เพื่อซื้อสินทรัพย์นี้กับธนาคาร ต้องมีค่าใช้จ่ายในการประเมินบ้านหรือที่ดินที่ต้องจ่ายคิดเป็นรายครั้งครั้งละประมาณ 3-4 พันบาท ซึ่งหากทางลูกค้ามีความประสงค์อยากยื่นเอกสารทำเรื่องกู้หลาย ๆ ธนาคาร คุณต้องอธิบายกับลูกค้าให้เข้าใจว่าสามารถเตรียมเอกสารยื่นให้ได้แต่จะมีค่าใช้จ่ายในการประเมินในแต่ละครั้งซึ่งเมื่อนำมาบวกลบคูณหารแล้วอาจเป็นเงินจำนวนมาก

ภาพจาก Freepik.com

 

  • หาตัวช่วยให้ลูกค้ากู้ผ่าน นอกจากการเตรียมเอกสารให้ครบถ้วนสมบูรณ์เพื่อให้ธนาคารสามารถทำงานได้ทันทีและแจ้งผลอนุมัติโดยเร็วที่สุด หากคุณมีเจ้าหน้าที่ธนาคารที่เคยทำงานร่วมกันจากงานที่ผ่านมาซึ่งราบรื่นและให้ผลลัพธ์เป็นที่น่าพอใจ คุณอาจลองแนะนำเจ้าหน้าที่ธนาคารคนนี้ให้กับลูกค้าของคุณเพื่อให้งานนี้เป็นไปอย่างราบรื่นด้วยเช่นกัน และหากผู้ซื้อของคุณไม่ใช่ผู้มีรายได้ประจำควรแนะนำให้ลูกค้าทำการเดินบัญชีธนาคารให้มีความสม่ำเสมอน่าเชื่อถือหรือเลือกบัญชีที่มีการเดินบัญชีสม่ำเสมอในช่วงระยะเวลา 6 เดือนที่ผ่านมามาใช้ในการยื่นแบงค์ เพื่อให้มีโอกาสสูงที่จะผ่านการอนุมัติ

ภาพจาก Freepik.com

 

  • ค่าใช้จ่ายในวันโอนเมื่อธนาคารอนุมัติ ปกติแล้วธนาคารจะแจ้งยอดเงินที่ได้รับอนุมัติแก่ลูกค้าและอาจไม่ได้แจ้งยอดค่าใช้จ่ายอื่นๆ ดังนั้นเป็นหน้าที่ของนายหน้าที่ต้องสอบถามเจ้าหน้าที่สินเชื่อ ว่าต้องเตรียมค่าใข้จ่ายอะไรบ้าง เช่นค่าอากรให้ทางธนาคาร, เบี้ยประกันชีวิต, เบี้ยประกันอัคคีภัยและยอดค่าธรรมเนียมที่ต้องจ่ายที่สำนักงานที่ดิน เพื่อให้ผู้ซื้อเตรียมค่าใช้จ่ายส่วนนี้ติดตัวมาด้วยเพื่อความรวดเร็ว

หลังจากช่วยลูกค้าในการดำเนินการจนการซื้อขายผ่านไปด้วยดีแล้ว คุณก็จะได้รับค่านายหน้าเป็นการตอบแทนให้หายเหนื่อยนั่นเอง