สำหรับบุคคลทั่วไปนั้นการยื่นขอสินเชื่อเพื่อซื้อบ้านหรือที่ดินกับธนาคารเพียงแค่เตรียมเอกสารยืนยันตัวตนและที่อยู่อาศัยพร้อมเอกสารรับรองรายได้ที่สอดคล้องกับวงเงินที่ต้องการจะขอสินเชื่อก็สามารถผ่านการอนุมัติได้ไม่ยากเย็นถ้าประวัติเครดิตของคุณดี ในส่วนของการขอสินเชื่อเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ในนามนิติบุคคลนั้นก็คือการซื้อสินทรัพย์ในนามบริษัทที่ดำเนินการโดยกรรมการหรือหุ้นส่วนหลายคนซึ่งเป็นการซื้ออสังหาริมทรัพย์มาเพื่อใช้ในกิจการอย่างเป็นที่ตั้งสำนักงาน หรือซื้อมาเพื่อให้เช่าหรือเพื่อปลูกสร้างบ้านหรืออาคารแล้วนำออกขายหรือให้เช่าเพื่อสร้างรายได้ให้กับกิจการ การเตรียมเอกสารสำหรับยื่นขอสินเชื่อนั้นจึงแตกต่างจากการยื่นขอสินเชื่อโดยบุคคลธรรมดา ซึ่งเอกสารที่ต้องใช้ในการยื่นขอสินเชื่อในนามนิติบุคคลมีดังนี้
ภาพจาก Freepik.com
1. หนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัทและใบทะเบียนการค้า เตรียมหนังสือรับรองการจดทะเบียนบริษัทและใบทะเบียนการค้าที่ได้รับตอนจัดตั้งบริษัท ซึ่งในใบทะเบียนการค้าจะระบุชื่อบริษัท วันที่จัดตั้ง เลขประจำตัวผู้เสียภาษีของนิติบุคคล เช่นเดียวกันกับในหนังสือรับรองแต่ในหนังสือรับรองบริษัทนั้นจะมีเพิ่มเติมในส่วนของรายชื่อกรรมการผู้มีอำนาจลงนามในหนังสือหรือเอกสารที่เกี่ยวข้องกับบริษัท ทุนจดทะเบียนและวัตถุประสงค์ในการจัดตั้งบริษัทซึ่งมีอายุตั้งแต่วันที่ลงรับรองหนังสือไม่เกิน 1 เดือน 3 เดือน หรือ 6 เดือนแล้วแต่นโยบายของแตละธนาคาร
2. สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นและของผู้กู้ร่วม
สำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นหรือ บอจ.5 :เป็นเอกสารที่แสดงรายชื่อของผู้ถือหุ้นทั้งหมดของบริษัท ในเอกสารสำเนาบัญชีรายชื่อผู้ถือหุ้นจะแสดงชื่อ นามสกุล อายุเลขที่บัตรประชาชน ที่อยู่และสัดส่วนของหุ้นที่ถือครองซึ่งมีอายุหรือลงวันที่รับรองสำเนาไม่เกิน 1 เดือน 3 เดือน หรือ 6 เดือนแล้วแต่นโยบายของแต่ละธนาคาร
ภาพจาก Freepik.com
3. สำเนาบัตรประชาชนของกรรมการผู้มีอำนาจลงนาม สำเนาบัตรประชาชนและสำเนาทะเบียนบ้านของกรรมการผู้มีอำนาจลงนามผูกพันธ์ในนามบริษัทเพื่อยืนยันตัวตน
4. สำเนาบัญชีของกิจการย้อนหลัง
สำเนารายการเดินบัญชีธนาคารของกิจการย้อนหลัง 6 เดือน โดยเป็นบัญชีธนาคารของกิจการที่มีรายรับรายจ่ายของกิจการ เพื่อพิจารณาสภาพคล่องของกิจการว่ามีความสามารถในการชำระหนี้ในวงเงินที่ขอยื่นกู้หรือไม่
ภาพจาก Freepik.com
5. หลักฐานแสดงการเสียภาษีหรืองบการเงินปีล่าสุด สำเนาใบเสร็จจากกรมสรรพากรว่าได้มีการยื่นเสียภาษีนิติบุคคลประจำปีที่ผ่านมาหรือจัดเตรียมงบการเงินของบริษัทฯ แนบกับเอกสารอื่น ๆ เพื่อให้เจ้าหน้าที่พิจารณา
การยื่นขอสินเชื่อเพื่อซื้ออสังหาริมทรัพย์ในนามบริษัทกับสถาบันการเงินนั้นอาจต้องเสียดอกเบี้ยเงินกู้ในอัตราที่แตกต่างจากการกู้ในนามบุคคลธรรมดา ดังนั้นผู้กู้ควรพิจารณาก่อนว่าแบบใดเหมาะสมและคุ้มค่าที่สุดสำหรับแผนการในใช้อสังหาริมทรัพย์นี้ของท่านในอนาคต